Aati-Aging Secrets to Beauty รู้จักเอสโทรเจน ฮอร์โมนแห่งความงาม

        ร่างกายของมนุษย์ประกอบด้วยฮอร์โมนหลากหลายชนิดซึ่งทำหน้าที่เสริมสร้างการเติบโตต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหากฮอร์โมนในร่างกายขาดความสมดุลก็อาจเกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมา
          ฮอร์โมนเอสโทรเจน (Estrogen)
       ฮอร์โมนเอสโทรเจนผลิตขึ้นจากรังไข่ของเพศหญิง (ทั้งนี้ปริมาณเอสโทรเจนในเพศชายจะมีน้อยกว่าเพศหญิงมาก) มีหน้าที่ช่วยให้ระบบในร่างกายทำงานสื่อสารได้อย่างสอดคล้องกัน ช่วยพัฒนาและควบคุมระบบสืบพันธ์ของเพศหญิง ตลอดจนลักษณะทางเพศภายนอก อีกทั้งยังส่งผลต่ออารมณ์ ฉะนั้นหากปริมาณเอสโทรเจน ในร่างกายมีมากหรือน้อยเกินไป ย่อมส่งผลต่อสุขภาพ เช่น สาเหตุของการผลิตเอสโทรเจนที่มากเกินไปมีหลายปัจจัยจากหลายสาเหตุ เช่น โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ความเครียด การใช้ยามากเกินไปรวมไปถึงการทานอาหารที่มีสารเคมีหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีได้อีกด้วย

          "ฮอร์โมน" ที่ทำให้ผู้หญิงสวย
          ฮอร์โมนเพศหญิงที่อยู่ในตัวผู้หญิงทุกคนนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ฮอร์โมน"เอสโทรเจน" และ
"โพรเจสเทอโรน" โดยฮอร์โมนสำคัญที่มีผลต่อความสวยงามและความอ่อนเยาว์ของผู้หญิงก็คือเอสโทรเจน ทั้งนี้นาทีทองของสาว ๆ จะอยู่ในช่วงอายุ 20 - 39 ปี ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่รังไข่ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงเป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงสวยที่สุดในชีวิตนั่นเองเมื่อพูดถึงฮอร์โมนเอสโทรเจน ไม่ใช่แค่เรื่องของความงามเท่านั้นเอสโทรเจนยังทำหน้าที่สร้างเสริมสุขภาพในด้านอื่น ๆ โดยเฉพาะประจำเดือนและการตั้งครรภ์อีกด้วย

          ร่างกายสร้างเอสโทรเจนได้ ก็หมดได้
      อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า ฮอร์โมนเป็นสารเคมีที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเองเมื่อหลั่งออกมาก็จะไหลเวียนไปตามกระแสโลหิต เมื่อไปถึงที่หมายก็จะไปกระตุ้นเซลล์นั้นให้เกิดการทำงาน โดยฮอร์โมนเอสโทรเจนจะหลั่งมาจากรังไข่แต่ผู้ที่รับไปคือสมอง อวัยวะภายใน หลอดเลือด กระดูก และผิวหนังเท่ากับว่าเอสโทรเจนอยู่ในเซลล์ทั่วร่างกาย และสิ่งที่ต้องรู้เพิ่มเติมคือเอสโทรเจนที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมานั้นมีวันหมดไป ซึ่งก็คือผู้หญิงวัยที่เริ่มหมดประจำเดือน อยู่ในช่วงอายุประมาณ 45 - 55 ปี  ที่เราเรียกกันว่าช่วงวัยทองซึ่งเป็นช่วงที่อวัยวะในการผลิตฮอร์โมนเอสโทรเจนหรือรังไข่ของคุณผู้หญิงทั้งหลายเริ่มทำงานน้อยลงหรือหยุดทำงาน เมื่ออวัยวะที่ใช้ในการผลิตฮอร์โมนหยุดทำงาน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกิดขึ้นก็จะส่งผลให้เกิดอาการต่างๆ ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ

          อาหารปรับฮอร์โมนสู้วัยทอง
      การรับมือกับอาการของวัยทอง นอกจากการควบคุมและเข้าใจหลักการเปลี่ยนแปลงของวัยทองแล้ว การกินอาหารที่ช่วยปรับสมดุลในร่างกายก็จะช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดไปให้รู้สึกกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง ถ้าเรารู้จักเลือกกินอาหารให้ดีและมีประโยชน์ ดังนี้
          1. ข้าวกล้อง
        ในข้าวกล้องมีสารเส้นใยที่ช่วยซับน้ำมันและน้ำตาลที่เรากินเข้าไปในแต่ละวันทิ้งเป็นกากอุจจาระได้ การกินข้าวกล้องจึงช่วยควบคุมน้ำหนัก ระดับไขมันและระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไป และยังให้ความรู้สึกอิ่มนานกว่าการกินข้าวปกติ ทำให้ไม่กินจุบจิบ แต่ประโยชน์ที่สำคัญของข้าวกล้อง หรืออาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตคือ การกระตุ้นสารเซโรโทนิน ทำให้ร่างกายหลั่งสารเชโรโทนินได้มากขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างความสุขหรือควบคุมอารมณ์ของเราไม่ให้หงุดหงิดง่าย อารมณ์ไม่แปรปรวน แถมยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย
            2. ถั่วเหลือง
         ถั่วเหลืองหรืออาหารที่มีถั่วเหลืองเป็นส่วนประกอบ เช่น เต้าหู้ น้ำเต้าหู้เป็นต้น เป็นอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพสูงสะสมอยู่ มีฮอร์โมนไฟโตเอสโทรเจนทำหน้าที่คล้ายฮอร์โมนเอสโทรเจน การกินอาหารที่มีถั่วเหลืองเป็นส่วนประกอบนอกจากสารอาหารที่มีอยู่ในถั่วเหลืองจะช่วยปรับฮอร์โมนของผู้หญิงที่ขาดไปช่วยลดอาการร้อนวูบวาบ และยังมีสารอาหารที่จำเป็นอีกมากมาย เช่นแคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม วิตามินบีคอมเพล็กซ์ สังกะสี สารอาหารเหล่านี้ช่วยลดอารมณ์แปรปรวนในวัยทองได้อีกด้วย
           3. ผักใบเขียว
         แม้ว่าผักจะมีหลากหลายสีให้เลือกกิน แต่ขึ้นชื่อว่าผักล้วนมีประโยชน์ทั้งนั้น สำหรับวัยทองแล้ว การกินผักใบเขียวนอกจากจะช่วยในเรื่องความจำ ชะลอโรคหัวใจ ผักใบเขียวยังมีกรดโฟลิกที่ช่วยในการผลิตเซลล์ใหม่ ช่วยให้การเผาผลาญโปรตีน แป้งและไขมันดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายได้อีกด้วย สำหรับคนวัยทอง ผักใบเขียวยังมีแมกนีเชียมสูง ช่วยลดอาการอารมณ์แปรปรวนรวมถึงอาการนอนไม่หลับได้ ผักใบเขียวที่เราหากินได้ง่าย ๆ เช่น คะน้า บรอกโคลี ผักโขม กวางตุ้ง ผักกาด ปวยเล้ง ฯลฯ
           4. ผลไม้สด
          ผลไม้สดเป็นอาหารที่มีไบโอฟลาโวนอยด์ ช่วยเสริมสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระตัวนี้จะคอยช่วยปรับสมดุลให้ร่างกาย ลดอาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกตอนกลางคืน และยังสามารถควบคุมระดับฮอร์โมนเอสโทรเจนได้ด้วยซึ่งผลไม้สดที่มีสารไบโอฟลาโวนอยด์อยู่มาก เช่น มะขาม ส้มโอ ส้มเขียวหวาน มะนาว เป็นต้น หรืออาจเลือกกินเป็นผลไม้จำพวกสตรอว์เบอร์รี่ อะโวคาโด กล้วย ฝรั่ง ที่นอกจากจะมีสารไบโอฟลาโวนอยด์แล้ว ยังมีวิตามินอีที่ช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส ไม่แก่ก่อนวัยอันควรด้วย
           นอกจากการกินดีตามที่เราแนะนำข้างต้นแล้วหากมีการออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยก็จะยิ่งช่วยให้ควบคุมฮอร์โมนได้ดีมากขึ้น สำหรับผู้หญิงทุกคน ฮอร์โมนเอสโทรเจนมีผลต่อความสวยงามและความอ่อนเยาว์ของผู้หญิงแต่ละช่วงวัย เพราะฉะนั้นอย่าลืมกินอาหารตามที่เราแนะนำ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกับร่างกาย

แหล่งที่มา
ชวลิดา เชียงกุล. (2564, มีนาคม). Aati-Aging Secrets to Beauty รู้จักเอสโทรเจน ฮอร์โมนแห่งความงาม. ชีวจิต, 23(539), 76-77.

TAG
FOLLOW ME
Health & Wellness
Bring Happiness to Your
Good Health and Good Life

บริษัท เวลเนส กรีน ไลฟ์ จำกัด
ช65/4-5 ถ.สวรรค์วิถี ต.ปากน้ำโพ
อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ 60000

Tel : 091-459-6662 หรือ 056-222-662
Facebook : เวลเนส กรีน ช็อป
                 สาขานครสวรรค์
Line ID : @wglgoodlife
e-Mail : wellness.nsn@gmail.com
              info@wellnessgreenlife.co.th
www.wellnessgreenlife.com :  www.wellnessgreenlife.co.th :  www.wellnessgoodlifeshop.com
Copyright © 2021 Wellness Green Life All Rights Reserved.