กรดอะมิโนแอลไลซีน หรือไลซีน (Lysine) เป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ จำเป็นต้องได้จากอาหาร บทบาทหน้าที่สำคัญของไลซีน คือ มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโต เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน การสังเคราะห์ฮอร์โมนและเอนไซม์ต่าง ๆ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย อีกทั้งช่วยดูดซึมแร่ธาตุสำคัญ เช่น แคลเซียม เหล็ก สังกะสี โดยทั่วไปคนเราได้รับไลซีนเพียงพอจากการรับประทานอาหาร แต่สำหรับผู้รับประทานมังสวิรัติ นักเพาะกายหรือนักกีฬา และเด็กที่กินยาก เบื่ออาหาร อาจมีความเสี่ยงการขาดไลซีน เมื่อร่างกายได้รับโปรตีนชนิดนี้ไม่เพียงพอ มักพบ “ภาวะโลหิตจาง เมื่อยล้า เบื่ออาหาร คลื่นไส้ ผมร่วง และอาจทำให้เกิดโรคนิ่วในไต” ซึ่งอาหารทดแทนหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั่วไปจะมีปริมาณไลซีนประมาณ 1,000-1,500 มิลลิกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการร่างกายของแต่ละบุคคล
ประโยชน์ของไลซีน
1. ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต และมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย
2. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ฮอร์โมน และเอนไซม์ต่าง ๆ ของร่างกาย
3. มีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม เหล็ก สังกะสี
4. ช่วยเพิ่มการดูดซึมในลำไส้ ส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหาร
5. ช่วยเสริมสร้างสมาธิ ช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า รวมทั้งลดภาวการณ์นอน ไม่หลับ เพราะไลซีนทำหน้าที่ยับยั้งการทำงานของตัวรับเซโรโทนิน หรือ Serotonin receptor 4 (5-HT4)
6. ช่วยให้ร่างกายนำกรดไขมันมาใช้เผาผลาญเป็นพลังงาน โดยหากร่างกายได้รับ “ไลซีนร่วมกับวิตามินซี” จะทำให้เกิด “สารแอลคาร์นิทีน” ซึ่งเป็นสารที่ทำให้กล้ามเนื้อใช้ออกซิเจนได้ดีขึ้น และยังช่วยลดความเหนื่อยล้าของร่างกาย
7. ช่วยบำรุงเส้นผม และผิวหนัง เนื่องจากไลซีนช่วยร่างกายในการสร้างและดูดซึมแคลเซียม ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการผลิตคอลลาเจน จึงช่วยให้เส้นผมและผิวหนังมีสุขภาพดีขึ้น
มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ของไลซีน โดยพบการศึกษาวิจัยผลของการให้ยาเสริม B-Hydroxy-B-Methylbutyrate, Arginine, และ Lysine ในผู้สูงอายุเพศหญิงเพื่อเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ ความแข็งแรงและระบบการทำงานของร่างกาย พบว่า หลังจากให้ยาไป 12 สัปดาห์ ผู้สูงอายุสามารถเคลื่อนไหวได้คิดเป็นร้อยละ 17 โดยมีเส้นรอบวงแขน ขา และความแข็งแรงของการจับเพิ่มขึ้น โดยไม่พบการสะสมของไขมันในกล้ามเนื้อ และมีการสังเคราะห์ของโปรตีนเพิ่มขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง คิดเป็นร้อยละ 20 ในขณะที่กลุ่มควบคุมไม่มีการเปลี่ยนแปลง (Flakoll, Sharp, Baier, Levenhagen, Carr, & Nissen, 2004: 5) และผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการให้บิสกิตเสริมเนื้อปลามีปริมาณโปรตีน 16.5 กรัม อาร์จีนีน 4,334 มิลลิกรัม และไลซีน 4,490 มิลิกรัม เพื่อเพิ่มความสูงให้กับเด็กขาดสารอาหารอายุ 36-60 เดือนด้วยการศึกษาค่า height-age z-score <- 2 SD พบว่า เด็กกินบิสกิตเสริมเนื้อปลาเพื่อให้เป็นแหล่งของพลังงาน โปรตีนและกรดอะมิโนประมาณ 10 ชิ้นต่อวัน ประมาณ 3 เดือน สามารถเพิ่มความสูงให้กับเด็กได้ดีกว่ากลุ่มควบคุมที่กินบิสกิตไม่เสริมเนื้อปลาที่รัฐบาลจัดให้ จากค่า height-for-age z-score -3.45 SD เป็น -2.51 มีค่า SD เพิ่มขึ้น 0.93 (Herawati, Asiyah, Wiramihardja, Fauzia, & Sunjaya, 2020: 1-7)
กรดอะมิโนไลซีน พบได้ในอาหารประเภทเนื้อปลา ได้แก่ ปลากะพงขาว ปลาน้ำดอกไม้ ปลาทูสด ปลาทูนึ่งปลากุเลา ปลาทับทิม ปลาช่อน และปลาดุก นม ไข่ ถั่วลิมา ถั่วเหลือง ถั่วเปลือกแข็ง เช่น มะม่วง หิมพานต์ ถั่วลิสง วอลนัท พิตาชิโอ และอัลมอนด์ เมล็ดพืชต่าง ๆ เช่น งา เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน เมล็ดแตงโม เนื้อสัตว์และอาหารที่มีโปรตีนสูงทุกชนิด
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
ฉัตรภา หัตถโกศล, และมณีรัตน์ เตชะวิเชียร. (2563, มกราคม-มิถุนายน). โปรตีน: สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย. วารสารโภชนาการ, 55(1), 82-94.
เอิร์ล มินเดลล์. (2561). วิตามินไบเบิล. (พิมพ์ครั้งที่ 19). กรุงเทพ: อมรินทร์สุขภาพ.
Flakoll, P., Sharp, R., Baier, S., Levenhagen, D., Carr, C., & Nissen, S. (2004). Effect of B-hydroxy-B-methyl butyrate, arginine, and lysine supplementation on strength, functionality, body
composition, and protein metabolism in elderly women. Nutrition, 20(5), 445-451.
Herawati, D. M. D., Asiyah, S. N., Wiramihardja, S., Fauzia, S., & Sunjaya, D. K. (2020). Effect of eel biscuit supplementation on height of children with stunting aged 36-60 months: A pilot Study. Journal of Nutrition and Metabolism, 2020,
2984728. https://doi.org/10.1155/2020/2984728