การดูแลผู้ป่วยมะเร็งตามแนวธรรมชาติบำบัด

โรคมะเร็ง จัดเป็นโรค NCDs ที่เป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของคนไทยในปัจจุบัน เกิดจากความผิดปกติ ที่หน่วยพันธุกรรมที่เรียกว่าดีเอ็นเอ (DNA) ของเซลล์ที่เกิดใหม่ นั่นก็คือ “เซลล์กลายพันธุ์” หรือที่เราเรียกว่า “เซลล์มะเร็ง กล่าวได้ว่า เซลล์มะเร็งเกิดจากสเต็มเซลล์ในอวัยวะนั้น ๆ กลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็งในขณะที่แบ่งตัวเพื่อสร้างเซลล์ใหม่มาซ่อมแซมอวัยวะนั้น ๆ ดังนั้นเซลล์มะเร็งจึงสามารถเกิดขึ้นได้เกือบทุกอวัยวะของคนเรา แต่ที่พบบ่อยมักเป็นอวัยวะที่เซลล์มีการแบ่งตัวจำนวนมากซึ่งย่อมมีโอกาสเกิดความผิดปกติของเซลล์ที่เกิดใหม่ได้ง่าย
       เมื่อมีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นในอวัยวะใดของร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันของเราจะทำหน้าที่กำจัดเซลล์ที่ผิดปกตินั้น หากร่างกายเรากำจัดได้ เราจะรอดพ้นจากการเป็นโรคมะเร็ง แต่ถ้ากำจัดไม่ได้ เซลล์มะเร็งก็จะเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วเกิดเป็นก้อนมะเร็งขึ้นในอวัยวะนั้น ๆ สิ่งที่น่ากลัวของเซลล์มะเร็งก็คือ มันสามารถกระจายออกจากอวัยวะเดิมไปสู่อวัยวะอื่น ๆ ทางกระแสเลือดและท่อน้ำเหลือง จากนั้นจึงเกิดเป็นก้อนมะเร็งขึ้นในอวัยวะอื่น ๆ ได้ หากเกิดในอวัยวะสำคัญ เราก็จะเสียชีวิตจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากก้อนมะเร็งไปทำลายอวัยวะนั้น
       หากเราดำเนินชีวิตและรับประทานอาหารตามหลักธรรมชาติ อันได้แก่ การละวางความเครียด การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกายให้เหมาะสม การรับประทานผักผลไม้สดเป็นอาหารหลัก การรับประทานอาหารโปรตีนสูงถูกชนิดและปริมาณเหมาะสม การไม่รับประทานน้ำตาล และการไม่รับประทานไขมันทรานส์ โอกาสเกิดเซลล์มะเร็งจะน้อย ระบบภูมิคุ้มกันดี สามารถกำจัดเซลล์มะเร็งได้ทุกครั้ง เราก็จะไม่เป็นโรคมะเร็ง สำหรับการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง เราก็สามารถบูรณาการวิถีธรรมชาติดังกล่าวควบคู่ไปกับการรักษาแผนปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ผลการรักษาออกมาดียิ่งขึ้น ไม่ขัดแย้งกัน โดยมีแนวทางสรุปได้ ดังนี้
       1. การปรับสภาพจิตใจให้มีความสุข หากผู้ป่วยมะเร็งมีจิตใจที่ผ่อนคลาย ไม่เกิดความเครียด ความกลัว ความวิตกกังวลต่าง ๆ การซ่อมแซมและเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงก็จะเกิดขึ้นตามมา ระบบภูมิคุ้มกันโรคและภูมิคุ้มกันมะเร็งก็จะทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด
       2. งดรับประทานน้ำตาลทุกชนิด เพราะน้ำตาลจะทำให้เลือดเป็นกรดและกดภูมิต้านทานมะเร็งให้ต่ำลง อันได้แก่
         2.1 น้ำตาลที่ผลิตจากโรงงานอุตสาหกรรม เช่น น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลกรวด น้ำตาลปี๊บ รวมถึงน้ำผื้งแท้ด้วย
         2.2 ผลไม้สุกและผลไม้หวาน น้ำตาลที่อยู่ในผลไม้สุกและผลไม้หวาน เกิดจากเอนไซม์ในผลไม้ชนิดนั้นเปลี่ยนแป้งที่มีอยู่ให้กลายเป็นน้ำตาล
         2.3 ขนมต่าง ๆ ซึ่งขนมจะมีส่วนประกอบหลักคือ แป้งและน้ำตาล ทั้งขนมไทยและขนมต่างประเทศ
         2.4 เครื่องดื่มต่าง ๆ ปัจจุบันเครื่องดื่มมีหลากหลายประเภททั้งบรรจุกล่อง บรรจุขวด หรือชงขายตามร้านค้า ซึ่งจะมีน้ำตาลอยู่เป็นจำนวนมาก
       3. งดรับประทานของทอดทุกชนิด เพื่อป้องกันการเกิดไขมันทรานส์ เนื่องจากไขมันทรานส์เป็นสารก่อมะเร็ง ถ้าจำเป็นต้องผัดหรือทอด ควรใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดร้อน
       4. ต้องขับถ่ายอุจจาระทุกวัน ถ้ามีปัญหาเรื่องท้องผูกอาจรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยเรื่องการขับถ่าย ภาวะท้องผูกจะเพิ่มสารก่อมะเร็งในร่างกาย ทำให้เซลล์มะเร็งแบ่งตัวเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว
       5. ต้องหลับให้สนิททุกคืน ประมาณ 6-8 ชั่วโมง ถ้ามีปัญหาเรื่องการนอนอาจรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เนื่องจากการพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ เสื่อมโทรม และภูมิต้านทานมะเร็งลดลง
       6. ต้องงดโปรตีนอันตรายที่กระตุ้นให้เซลล์มะเร็งโตเร็ว อันได้แก่ นมวัว ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากนมวัว และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และคุมจำนวนอาหารโปรตีนสูง ได้แก่ สัตว์น้ำ สัตว์ปีก เช่น ปลา กุ้ง ปู ไก่ เป็ด ไข่ต่าง ๆ ทั้งไข่แดงและไข่ขาว เห็ด ถั่วแกะเมล็ด เมล็ดพืช และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่ว เช่น เต้าหู้ โปรตีนเกษตร ขนม รวมกันไม่เกิน 3 ขีดต่อวัน เพราะต้องลดของเสียจากการย่อยโปรตีนลง ลดค่า BUN ในเลือดลงเพื่อให้เซลล์มะเร็งขาดอาหาร โดยในช่วงที่โรคมีอาการรุนแรง อาจใช้วิธีงดรับประทาน
       7. การรับประทานอาหารทดแทนโปรตีน เพื่อชดเชยการลดอาหารโปรตีนสูง ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง เพิ่มภูมิต้านทานมะเร็ง
       8. การรับประทานสารเสริมอาหารสกัดจากธรรมชาติควบคู่กับการรับประทานอาหารตามหลักธรรมชาติ ซึ่งต้องพิจารณาตามความจำเป็นของผู้ป่วยแต่ละบุคคลว่าต้องการสารอาหารใดเป็นพิเศษ เช่น วิตามิน แร่ธาตุ สารอาหารต้านการอักเสบ สารอาหารต้านอนุมูลอิสระ และสารอาหารต้านมะเร็ง เพื่อช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดการทำลายจากเซลล์มะเร็ง มีสารออกฤทธิ์ที่สามารถกำจัดเซลล์มะเร็ง แต่ไม่เกิดโทษต่อเซลล์ปกติ เพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดเพื่อเป็นการเพิ่มภูมิต้านทานมะเร็ง ป้องกันภาวะเลือดออกง่ายในผู้ป่วยที่ได้รับเคมีบำบัดหรือรังสีบำบัด รวมทั้งเพิ่มความสามารถของตับในการสร้างภูมิต้านทานให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ทั้งผู้ป่วยมะเร็งตับและมะเร็งในที่อื่น ๆ
       9. การปรุงอาหารที่สะอาด ปราศจากสารพิษปนเปื้อน ปราศจากผงชูรส ปราศจากน้ำตาล และปราศจากไขมันทรานส์เพื่อให้การใช้อาหารบำบัดมีประสิทธิผลเต็มที่
       การดูแลผู้ป่วยมะเร็งด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตให้เป็นไปตามหลักธรรมชาติ ร่วมกับการใช้อาหาร อาหารทดแทน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สารสกัดจากธรรมชาติและวิตามิน ตามที่กล่าวข้างต้น ถือเป็นแนวทางที่ส่งผลดีต่อการบำบัดมะเร็งในทุกอวัยวะ เพื่อเสริมสร้างสิ่งที่ดีให้กับร่างกายและจิตใจ สามารถใช้เป็นแนวทางดูแลร่วมกับแผนปัจจุบัน ซึ่งส่งผลดีต่อการบำบัดและเสริมประสิทธิภาพกันและกันได้อย่างดียิ่ง

ข้อมูล: หนังสือพิชิตโรคร้ายโดยไม่ใช้ยา เล่ม 3 พิชิตมะเร็ง ฟื้นฟูไตด้วยพลังธรรมชาติ
       คู่มือบำบัดกลุ่มโรค NCDs ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตให้เป็นไปตามหลักธรรมชาติ
       โดย นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์

TAG
FOLLOW ME
Health & Wellness
Bring Happiness to Your
Good Health and Good Life

บริษัท เวลเนส กรีน ไลฟ์ จำกัด
ช65/4-5 ถ.สวรรค์วิถี ต.ปากน้ำโพ
อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ 60000

Tel : 091-459-6662 หรือ 056-222-662
Facebook : เวลเนส กรีน ช็อป
                 สาขานครสวรรค์
Line ID : @wglgoodlife
e-Mail : wellness.nsn@gmail.com
              info@wellnessgreenlife.co.th
www.wellnessgreenlife.com :  www.wellnessgreenlife.co.th :  www.wellnessgoodlifeshop.com
Copyright © 2021 Wellness Green Life All Rights Reserved.